ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 สำนักงานเผยแพร่ภาษาจีนระหว่างประเทศได้เปลี่ยนระบบการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน HSK เป็นระบบใหม่ โดยแบ่งการสอบออกเป็นสองส่วน คือ สอบข้อเขียน และ การพูด |
|
การสอบข้อเขียน แบ่งออกเป็น 6 ระดับดังนี้
|
-
ระดับที่ 1สำหรับผู้สอบที่เข้าใจคำศัพท์และประโยคภาษาจีนง่าย ๆ เรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 150 คำ
-
ระดับที่ 2 สำหรับผู้สอบที่สามารถใช้ภาษาจีนสื่อสารเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 300 คำ
-
ระดับที่ 3 สำหรับผู้สอบที่สามารถใช้ภาษาจีนสื่อสารเรื่องความเป็นอยู่ การศึกษา การทำงาน และท่องเที่ยวในประเทศจีน เป็นต้น เรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 600 คำ
-
ระดับที่ 4 สำหรับผู้สอบที่สามารถใช้ภาษาจีนสื่อสารในหัวข้อที่กว้างขวางขึ้นและสามารถสื่อสารกับผู้ใช้ภาษาจีนเป็น
ภาษาแม่ได้อย่างคล่องแคล่ว เรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 1,200 คำ
-
ระดับที่ 5 สำหรับผู้สอบที่สามารถอ่านเข้าใจภาษาจีนจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารจีนฟังเข้าใจรายการโทรทัศน์และ
ภาพยนตร์จีน และสามารถพูดภาษาจีนในที่สาธารณะได้ เรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 2,500 คำ
-
ระดับที่ 6 สำหรับผู้สอบที่สามารถฟังและอ่านข่าวสารภาษาจีนได้อย่างดี สามารถสื่อสารความคิดเห็นของตัวเองด้วย
ปากเปล่าหรือการเขียนเป็นภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว เรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีน 5,000 คำขึ้นไป
|
การสอบพูด แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
|
- ระดับต้น
- ระดับกลาง
- ระดับสูง
*ผู้ที่สมัครสอบข้อเขียนระดับ 4 ขึ้นไปสามารถสมัครสอบพูดได้
*การสมัครสอบข้อเขียนและสอบพูด จะต้องสมัครสอบแยกกัน
|
ประโยชน์ของการสอบ HSK
|
- เพื่อใช้รับนักศึกษาใหม่ ใช้แบ่งห้องเรียนตามระดับความรู้ และยกเว้นการเรียน
- เพื่อใช้คัดคนเข้าทำงาน ฝึกอบรม และเลื่อนตำแหน่ง
- เพื่อใช้วัดมาตรฐานของผู้สอบเองว่ามีความรู้ภาษาจีนอยู่ที่ระดับใด
- เพื่อสถานศึกษาใช้วัดมาตรฐานการสอนของสถาบันตัวเอง
|
|
ตารางเปรียบเทียบการสอบวัดระดับความ รู้ภาษาจีน HSK ระบบใหม่และระบบเก่า
|
HSK ระบบใหม่ สอบ ข้อเขียน
|
HSK ระบบใหม่ สอบ พูด
|
HSK ระบบเก่า
|
ระดับ 6
|
ระดับสูง
|
ระดับสูง
|
ระดับ 5
|
ระดับกลาง
|
ระดับต้นกลาง
|
ระดับ 4
|
ระดับต้น
|
ระดับพื้นฐาน
|
ระดับ 3
|
-
|
-
|
ระดับ 2
|
-
|
-
|
ระดับ 1
|
-
|
-
|
|
|